ไขข้อสงสัย "ข้าวโอ๊ต มีกี่แคล" ทำไมกินแล้วไม่อ้วน?
- verre9 official
- 11 มี.ค. 2565
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 14 มี.ค. 2565
ข้าวโอ๊ตได้รับฉายาว่า ‘ราชาแห่งข้าวลดน้ำหนัก’ เป็น Super Foods ที่อุดมไปด้วยใยอาหารจากธรรมชาติ โปรตีนจากพืช วิตามิน แร่ธาตุ และคาร์โบไฮเดตเชิงซ้อนชั้นดีที่มีส่วนช่วยในการดูแลรูปร่าง ในปัจจุบันข้าวโอ๊ตเป็นที่นิยม ของกลุ่มคนที่ดูแลรูปร่างและกลุ่มคนที่รักสุขภาพ
ข้าวโอ๊ต มีแคลอรีสูงจริงไหม?
จากฐานข้อมูลของ USDA หรือกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ให้ข้อมูลไว้ว่า ข้าวโอ๊ตดิบ 100 กรัม ให้พลังงาน 350 kcal เมื่อเทียบกับข้าวชนิดอื่นในปริมาณ 100 กรัม ถือว่าไม่ต่างกันมาก เช่น ข้าวขาวดิบ ให้พลังงาน 356 kcal, ข้าวกล้องดิบ ให้พลังงาน 347 kcal, ข้าวไรซ์เบอร์รีดิบ ให้พลังงาน 370 kcal, และข้าวเหนียวดิบ ให้พลังงาน 370 kcal แต่เมื่อนำไปหุงแล้ว ข้าวโอ๊ตที่มีคุณสมบัติดูดซึมน้ำได้ดีกว่าข้าวหลายชนิด ในปริมาณที่หุงสุก 100 กรัม ข้าวโอ๊ตจะให้พลังงาน 66 kcal ถือว่าน้อยกว่ามาก เมื่อเทียบกับข้าวหุงสุกชนิดอื่นในปริมาณ 100 กรัมเท่ากัน เช่น ข้าวขาวให้พลังงาน 80 kcal, ข้าวกล้องให้พลังงาน 70 kcal, ข้าวไรซ์เบอร์รีให้พลังงาน 80 kcal และช้าวเหนียวให้พลังงาน 97 kcal

ข้าวโอ๊ต ช่วยลดน้ำหนักจริงไหม?
ข้าวโอ๊ต ถือเป็นอาหารหลักสำหรับคนลดน้ำหนัก เพราะอุดมด้วย ‘ใยอาหารชนิดละลายน้ำ’ เช่น เบต้ากลูแคน (Beta-Glucan) ซึ่งทำหน้าที่ลดไขมัน ลดคอเลสเตอรอล และลดความอยากอาหาร ด้วยการควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกาย อีกทั้งยังอุดมด้วย ‘ใยอาหารชนิดไม่ละลายน้ำ’ ที่จะเข้าไปพองตัวในลำไส้ ช่วยกวาดของเสีย ช่วยให้อุจจาระนุ่ม ขับถ่ายง่ายขึ้น
เนื่องจากข้าวโอ๊ตเป็นธัญพืชไม่ขัดสี จึงมี ‘โปรตีนจากพืช’ และ ‘คาร์โบไฮเดตเชิงซ้อน’ ที่ทนทานต่อการย่อยของเอนไซม์ในกระเพาะสูง หมายความว่า ยิ่งย่อยยากเท่าไหร่ เรายิ่งจะอิ่มท้องนานมากขึ้นเท่านั้น และร่างกายก็ต้องใช้พลังงานเพิ่มขึ้นเพื่อมาย่อยข้าวโอ๊ตด้วย ถือว่าเป็นการเร่งระบบเผาผลาญไปในตัว
สรุปง่าย ๆ ข้าวโอ๊ตเมื่อหุงสุกจะมีแคลอรีน้อย แต่ทานแล้วอิ่มนาน ลดความอยากอาหาร ลดการทานจุบจิบ จึงช่วยลดแคลอรีรวมต่อวันได้ อีกทั้งยังช่วยลดไขมัน ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย และเร่งการเผาผลาญ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ข้าวทั่วไปให้ไม่ได้ โดนอกโดนใจคนลดน้ำหนักมาก

ข้าวโอ๊ต หุงทานอย่างไร?
ข้าวโอ๊ตเต็มเมล็ด (Oat Groats) แคลน้อย หุงง่าย ด้วยอัตราข้าวโอ๊ต 1 : น้ำ 2 หรือใช้ทฤษฎีหุงโดยเติมน้ำให้สูงกว่าระดับข้าวโอ๊ต 1 ข้อนิ้วมือ โดยใช้เวลาหุงประมาณ 30 - 35 นาที และรอให้ข้าวโอ๊ตระอุอีก 5 นาที ก็จะได้ข้าวโอ๊ตที่นุ่ม หนุบหนับ มีกลิ่นหอมละมุนคล้ายเนยบราวน์บัตเตอร์ แต่จะไม่กวนรสชาติอาหาร สามารถทานแทนข้าวขาวได้ ช่วยให้การลดน้ำหนักเป็นเรื่องง่าย ๆ ไม่ต้องทนหิว ไม่ต้องพึ่งยา ไม่ต้องพึ่งอาหารเสริม

สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่คุ้นชินกับการทานข้าวโอ๊ต สามารถนำสูตรดังนี้ไปใช้ได้
● เสต็ป 1 - ผสมข้าวโอ๊ตกับข้าวขาวในอัตรา ข้าวโอ๊ต 1 : ข้าวขาว 3 เพื่อปรับลิ้นให้คุ้นชินกับรสสัมผัสของข้าวโอ๊ตที่จะมีความนุ่ม หนุบหนับ และหอมเป็นเอกลักษณ์ต่างจากข้าวชนิดอื่น
● เสต็ป 2 - เมื่อเริ่มคุ้นชินแล้ว สามารถผสมข้าวโอ๊ตกับข้าวขาวในอัตรา ข้าวโอ๊ต 1 : ข้าวขาว 1 ให้สัดส่วนของข้าวทั้งสองชนิดเท่ากัน เสต็ปนี้จะช่วยให้คุ้นชินกับรสสัมผัสของข้าวโอ๊ตมากยิ่งขึ้น
● เสต็ป 3 - แนะนำให้หุงข้าวโอ๊ต 100% สำหรับทานเป็นประจำ เพื่อความอร่อยขั้นสุดและสุขภาพที่ดีในทุกมื้อ

ข้อแนะนำ
ข้าวโอ๊ตเป็นอาหารที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ แต่อย่างไรก็ตาม คนในกลุ่มต่อไปนี้ควรเลี่ยงการรับประทานข้าวโอ๊ตหรือผลิตภัณฑ์จากข้าวโอ๊ต
● ผู้ทีมีอาการเกี่ยวกับโรคไต ที่ต้องควบคุมการรับประทานโปรตีน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม
● ผู้ที่มีความผิดปกติของระบบย่อยอาหาร เพราะข้าวโอ๊ตจะอยู่ในท้องนาน ทำให้อิ่มนาน หากร่างกายย่อยอาหารได้ยาก จึงอาจเกิดอาการแน่นท้องตามมา
● ผู้ที่มีอาการแพ้อะวีนิน (Avenin) ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งในข้าวโอ๊ตที่คล้ายกับกลูเตนในข้าวสาลี
วิธีเก็บรักษา
ข้าวโอ๊ตมีคุณสมบัติดูดซับกลิ่นได้ค่อนข้างดี จำเป็นต้องเก็บในภาชนะปิดสนิทเพื่อกันอากาศเข้า และเพื่อเพิ่มอายุในการเก็บรักษาควรแช่ใส่ตู้เย็นช่องธรรมดา จะเก็บได้นาน 8-12 เดือน และจะช่วยป้องกันไม่ให้มอดขึ้นได้
Comentarios